ค้นหาบล็อกนี้

วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

8 วิธีดูแลผิวสวยด้วยธรรมชาติ

     ผิวพรรณเป็น ส่วนของร่างกายที่สำคัญส่วนหนึ่ง นอกจากจะเป็นอวัยวะ ที่ใหญ่ที่สุดของร่างกายแล้ว ยังเป็นอวัยวะที่อยู่นอกสุด ซึ่งเป็นส่วนที่สังเกตเห็นได้ชัดเจน บุคลิกภาพที่ดีจึงขึ้นกับการมีผิวพรรณที่งดงามและมีสุขภาพดีด้วย
เพื่อบำรุงให้มีสุขภาพดี หลายคนจึงต่างยอมทุ่มเทเงินทอง เพื่อสรรหาครีมหรือยาต่างๆ มาบำรุงผิวพรรณกัน บางคนยอมเสียเงินเรือนหมื่น เรือนแสนเพื่อเข้าคอร์สบำรุงผิวด้วยความหวังว่าจะได้มีผิวงามมาประดับกาย ซึ่งวิธีเหล่านี้บางครั้งนอกจากจะทำให้สิ้นเปลืองเงินทองแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อ
ผิวพรรณด้วย

เราจะได้คุยกันถึงเคล็ดลับของการดูแลให้ผิวสวซึ่งเป็นด้วยธรรมชาติวิธีที่ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์การแพทย์นะครับ
วิธีที่ 1 - การล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน เพื่อชำระล้างเหงื่อไคล ไขมันและขี้ไคลออกจากผิวหนัง เวลาล้างหน้าให้ล้างเบาๆ แล้วซับน้ำให้แห้ง ด้วยผ้าขนหนูสะอาด อย่าใช้ผ้าจนหนูถูหน้าแรงๆ เพราะจะทำให้สิวอักเสบมากขึ้น ไม่ควรใช้แปรงฟองน้ำ หรือสบู่ที่ผสมเม็ดขัดถู ขัดถูใบหน้าเพราะทำให้ใบหน้าระคายเคือง และกระตุ้นให้สิวกำเริบมากขึ้น

วิธีที่ 2 - หากเป็นสิวน้อย อาจทายาเองได้ ผู้ที่มีปัญหาสิวเพียงเล็กน้อย เช่น สิวหัวดำ, หัวขาว, หรือสิวอักเสบเพียง 1-2 เม็ด อาจหาซื้อยามาทาเองได้ แต่ต้องอ่านฉลากยาให้เข้าใจวิธีใช้โดยละเอียดเสียก่อน หากใช้ครีมทารักษาสิวแล้ว เกิดอาการผิวแห้งหรือระคายเคือง ควรปรึกษาแพทย์ ต้องระวังยาที่โฆษณาว่า รักษาได้ทั้งสิวและฝ้า เพราะยาพวกนี้มักผสมสเตียรอยด์ ซึ่งอาจทำให้สิวยุบเร็วจริง แต่มีข้อแทรกซ้อนตามมามากมาย ในกรณีที่เป็นสิวอักเสบมาก จัดเป็นโรคผิวหนัง จำเป็นต้องได้ยาภายใต้การดูแลของแพทย์ ยากรักษาสิวบางตัว อาจทำให้ทารกในครรภ์พิการได้

วิธีที่ 3 - พิจารณาให้ดีก่อนใช้เครื่องสำอาง ควรเลือกใช้เครื่องสำอาง ที่ไม่มีผลต่อการทำงานของผิวหนังต้องไม่มีสารสเตียรอยด์เจือปน ควรเลือกใช้ครีมให้ความชุ่มชื้นที่ไม่มีส่วนประกอบที่เป็นสารเคมี ที่กระตุ้นให้เกิดสิวเครื่องสำอางที่มีราคาแพงที่สุด อาจไม่ใช่เครื่องสำอางที่ดีที่สุด หรือเหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ

วิธีที่ 4 - การรักษาสิวโดยการผ่าตัด ไม่แนะนำให้บีบแกะสิวออกด้วยตนเอง เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบลุกลามและเกิดแผลเป็นได้มาก แพทย์อาจพิจารณากดสิวอุดตันหัวดำออกให้ในกรณีที่จำเป็น ส่วนในกรณีที่มีสิวอักเสบหรือสิวหัวช้าง การฉีดยาสเตียรอยด์เข้าไปในสิว อาจทำให้สิวยุบลงอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับกรณีเร่งด่วน เช่น จะเข้าพิธีแต่งงานในวันรุ่งขึ้น แต่วิธีนี้ก็อาจเกิดผลแทรกซ้อนตามมาได้ ส่วนการใช้แผ่นขจัดสิวเสี้ยนนั้น หากใช้บ่อยครั้งเกินไป ผิวอาจอักเสบระคายเคือง และเป็นการกระตุ้นให้เกิดสิวมากขึ้นได้

วิธีที่ 5 - หลีกไกลรอยเหี่ยวย่นโดยขจัดสาเหตุต้นตอ รอยเหี่ยวย่นบนผิวหน้าของคนเราแบ่งเป็น 3 ชนิด ใหญ่ๆ คือ รอยเหี่ยวจากอารมณ์ รอยเหี่ยวจากแสงแดด และรอยเหี่ยวแห้ง ผู้ที่มีแต่ความเครียดชอบหน้านิ่วคิ้วขมวด หรือเลิกหน้าผาก จะเกิดร่องย่นได้ตามหัวคิ้วและหน้าผากครีมบำรุงผิว ที่อ้างว่าลบรอยเหี่ยวต่างๆ จึงไม่เป็นจริง เพราะเครื่องสำอางเหล่านี้ ออกฤทธิ์เพียงแค่ผิวชั้นนอกสุดคือ ชั้นขี้ไคล แต่ส่วนที่เสียไปคือ ส่วนชั้นหนังแท้การป้องกันรอยเหี่ยวย่น 3 แบบนี้ คือ การมีอารมณ์แจ่มใส อย่าหน้านิ่วคิ้วขมวด เพื่อลดรอยเหี่ยวย่นจากอารมณ์ หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัด เพื่อป้องกันรอยเหี่ยวย่นจากแสงแดด และการใช้ครีมให้ความชุ่มชื้นทา ในกรณีของรอยเหี่ยวแห้ง

วิธีที่ 6 - รักษาฝ้าและกระโดยการเลี่ยงแสงแดด ยังไม่มีวิธีใดที่รักษาฝ้าให้หายขาดและไม่เกิดขึ้นใหม่ได้อีก จึงไม่ควรเสียเงินและเวลาให้กับการรักษาฝ้าและกระจนเกินไป ในต่างประเทศถือว่ากระเป็นเสน่ห์ของใบหน้า (cute spots) หนทางที่ดีที่สุดในการป้องกันและรักษาฝ้าและกระคือ การหลีกเลี่ยงแสงแดด ในช่วง 8.00-17.00 น. เพราะรังสีในแดด นอกจากทำให้ฝ้าและกระเข้มขึ้น ยังทำให้ผิวเหี่ยวแก่ และเกิดมะเร็งผิวหนังได้

วิธีที่ 7 - พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การทำงานหนักโดยไม่พักผ่อนเลย หรือเอาแต่เล่นโดยไม่ทำงานให้เป็นแก่นสาร ต่างมีผลเสียต่อสุขภาพ การพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายอ่อนแอ ก่อผลเสียต่อผิวได้ การสูบบุหรี่นอกจากจะมีผลต่อสุขภาพของร่างกายทั่วไปแล้ว ยังทำให้ใบหน้าแลดูแก่ก่อนวัยไปนับ 20 ปี เพราะนิโคตินทำให้เส้นเลือดหดตัว เซลล์ผิวหน้าจึงขาดสารอาหารเกิดริ้วรอยเหี่ยวแก่ขึ้น นอกจากนั้นการดื่มเบียร์ดื่มเหล้า ดื่มไวน์ ตลอดจนยาเสพติดในทุกรูปแบบต่างก่อปัญหาแก่ผิวทั้งสิ้น จึงควรดูแลสุขภาพด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ คือนอนหลับวันละไม่ต่ำกว่า 6-8 ชั่วโมง รับประทานอาหารให้ครบหมู่และควรรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ เพราะอาหารที่มีไขมันสูงจะทำให้อ้วน ซึ่งทำให้โรคผิวหนังหลายอย่างเช่น กลาก เกลื้อน สะเก็ดเงิน ผิวแตกลาย ติ่งเนื้อ และมะเร็งผิวหนังเป็นได้ง่ายขึ้น และดื่มน้ำให้เพียงพอ ไม่ต่ำกว่าวันละ 8 แก้ว จะช่วยให้ผิวหนังนุ่มนวลได้ ไม่มีอาหารเสริมหรือวิตามินมหัศจรรย์ตัวใดที่จะทำให้ผิวสวยได้ หากไม่ปฏิบัติตามกติกาอนามัยพื้นฐานเหล่านี้

วิธีที่ 8 - อยากมีผิวสวยต้องไม่เครียด อารมณ์กับสุขภาพผิว ถือเป็นสิ่งที่มีความสัมพันะกันแนบแน่นความเครียดทำให้ผิวหนังอักเสบเป็นลม พิษ ผมร่วง หรือสิวกำเริบขึ้นได้ บางรายเวลาเครียดมากจะแกะสิวเล่น ทำให้ใบหน้าเกิดแผลเป็นและยิ่งเครียดเพิ่มขึ้นไปอีก วิธีหลีกเลี่ยงความเครียด มีหลายวิธี เช่น การออกกำลังกาย การปฏิบัติตามคำสอนของศาสนา การนั่งวิปัสสนา การเล่นโยคะ การนวด การมีอารมณ์ขัน มองโลกในแง่ดีและสดใส เหล่านี้ ย่อมทำให้จิตใจเบิกบาน และเมื่อมีสุขภาพจิตดีแล้ว สุขภาพผิวก็จะดีตามไปด้วยอย่างแน่นอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น